เหตุผลก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์กับโครงการรถยนต์คันแรก
นโยบายภาษีรถยนต์คันแรก
เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย สำหรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ “คืนภาษีรถยนต์คันแรก” ก่อนตัดสินใจใดๆ อยากให้ลองศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจค่ะ การซื้อรถยนต์ใหม่ คนส่วนใหญ่ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อเงินสด จึงต้องผ่อนชำระตามสัญญาเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ ดังรายละเอียดคัดมาบางส่วนจาก ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ผู้เช่า จะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ เมื่อไรก็ได้ โดยการส่งมอบรถยนต์คืน ด้วยความสมัครใจเอง ตามมาตรา ๕๗๓ (โปรดสังเกตว่า กฎหมายใช้คำว่า “ผู้เช่า” ไม่ใช่ “ผู้เช่าซื้อ” หมายความว่าระหว่างผ่อนชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์อยู่นั้น ให้ถือว่าผู้เช่าซื้อเป็นแต่เพียง “ผู้เช่า”
หากผู้เช่า จะส่งคืนรถยนต์ให้เจ้าของ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบหรือเกิดปัญหาในภายหลัง จึงควรตกลงทำสัญญากันไว้ว่า เจ้าของได้รับรถยนต์คืนในสภาพเรียบร้อยดีและเป็นที่พอใจแก่หนี้แล้ว พร้อมไม่ประสงค์เรียกร้องค่าเสียหายอีกต่อไป เมื่อไม่มีข้อตกลงดังกล่าว จะเสียเปรียบ เจ้าของอาจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้เช่าได้ถ้าเขาได้รับความเสียหาย เช่น ค่าเช่าที่ค้าง ค่าซ่อมแซม ค่ารถเสื่อมสภาพ และค่ารถราคาต่ำกว่าควร เป็นต้น ตามมาตรา ๔๒๐
ส่วนค่าเสียหายที่ไกลเกินเหตุเรียกไม่ได้ เช่นค่าติดตามรถ ค่าดำเนินการในการประมูลและค่าเสียโอกาส เป็นต้น ดังนั้นผู้เช่าควรต้องตกลงกับเจ้าของเกี่ยวกับค่าเสียหายให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อนคืนรถยนต์
นโยบายรถคันแรกของรัฐบาล ถ้ามองในภาพรวมคนที่ได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ก็มีมาก รถยนต์ 1 คัน ประกอบไปด้วยวัตถุดิบที่มาจากหลากหลาย มีธุรกิจที่ได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม หรือที่เรียกว่า ห่วงโซ่อุปทาน จากอุตสาหกรรมรถยนต์ ประโยชน์ทางตรง เช่น มีการจ้างงานสูงขึ้น วัตถุดิบทางตรง ชิ้นส่วน อุปกรณ์ ฯลฯ ประโยชน์ทางอ้อมคือ คนซื้อรถยนต์หวังเงินคืนภาษีต้องขึ้นทะเบียนผู้เสียภาษี รัฐก็มีโอกาสได้รับภาษีเพิ่ม แต่ข้อเสียชองนโยบายคือ การซื้อรถยนต์ ไหนจะตามมาด้วย ค่าประกัน ค่าจดทะเบียน ซ่อมบำรุง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนจะเพิ่มขึ้น และถ้าไม่มีกำลังผ่อน ก็จะมาพร้อมกับหนี้ NPL ที่ธนาคารจะต้องแบกรับ
สำหรับคนที่ซื้อเป็นเงินสด จะได้ผลประโยชน์จากนโยบายเต็ม 100% แต่สำหรับคนที่ต้องการซื้อเงินผ่อน ถ้าดาวน์น้อย ผ่อนนาน ก็เทียบเท่ากับการนำเงินคืนภาษีไปจ่ายเป็นดอกเบี้ยก็เท่ากับไม่ได้เงินคืนภาษี การซื้อเงินผ่อนถ้ามีเงินดาวน์น้อยต้องมีคนค้ำประกัน ตรงนี้สำคัญเพราะถ้าไม่รักษาเครดิต ผ่อนๆ ไปแล้วหยุด จะสร้างความเสียหายให้คนที่ค้ำประกันได้ เดือดร้อนตัวเองไม่พอ ทำให้คนอื่นเสียหายอีก คนที่กำลังเป็นผู้จะค้ำประกันก็ให้คิดให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจค้ำประกันให้ใคร เพราะถ้าเสียเครดิตแล้วจะไปทำอะไรในอนาคตก็ลำบาก เช่น กู้ซื้อบ้าน เป็นต้น ข้อควรพิจารณาว่าสมควรซื้อหรือไม่
- ค่าผ่อนรถ (ขั้นต่ำ 5,000 บาท + ค่าน้ำมัน (ประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน)
- ประกันชั้น 1 ราคา 15,000 บาท / ปี
- พรบ. + ภาษี ราคา 2,500 บาท/ปี
- เช็คระยะทาง ถ่ายน้ำมันเครื่อง 2,000 บาท / 6 เดือน
- เปลี่ยนยางทุก 3-4 หมื่น กิโล ประมาณ 10,000 บาท
- ถ้าใช้สิทธิเข้าโครงการ “คืนภาษีรถยนต์คันแรก” มีกฎว่าห้ามเปลี่ยนเจ้าของภายในระยะเวลา 5 ปี
เหตุผลทั้ง 6 ข้อ สามารถนำมาประกอบการตัดสินใจ ไม่ใช่คิดแค่อยากได้คืนภาษีแล้วตัดสินใจซื้อ ไม่ใช่คิดเข้าข้างตัวเองว่ายังไงก็ต้องซื้อเดี๋ยวเสียโอกาส ไม่ใช่คิดเข้าข้างตัวเองว่าซื้อก่อนแล้วค่อยไปคิดว่าจะหาเงินผ่อนยังไง แต่มันเป็นเรื่องที่ต้องคิดก่อนตัดสินใจ ตรึกตรองให้รอบคอบ อย่าโทษใคร ความคิดเรา ตัวเรา ไม่มีใครบังคับ ถ้ามีกำลังทรัพย์มากพอที่จะผ่อนได้มันก็เป็นข้อดี แต่ถ้ายังไม่พร้อมก็รอให้พร้อมก่อนค่อยซื้อ ไม่ต้องเสียดายเงินแสน แต่อยากให้เสียดายความสุขที่ต้องสูญเสียไป พร้อมกับความทุกข์ที่ต้องเผชิญเมื่อรายได้ไม่พอกับรายจ่ายเข้าตำรา อยากมีเหมือนเขา อาจทุกข์กว่าตอนเราไม่มี “ไม่มีเหมือนเขา ไม่ได้หมายความว่าเราสุขน้อยกว่า”